อัตราส่วน Calcium / Phosphorus ที่เหมาะสมสำหรับกระต่าย

อัตราส่วน Calcium / Phosphorus ที่เหมาะสมสำหรับกระต่าย

 

          เวลานักโภชนาการมองอาหาร เคยสงสัยมั้ยครับว่าทำไมดูแค่แว๊บเดียวเค้าก็ตอบได้เลยว่าอาหารไหนไม่ดี แต่การจะตอบได้ว่าอาหารดีนั้นเค้าอาจจะต้องใช้เวลาในการพิจารณาอีกนิด

          เพราะปริมาณแคลเซียม และ ปริมาณฟอสฟอรัส คือประตูด่านแรกของคุณภาพอาหาร ไม่ใช่ว่ามีมากๆจะดี หรือมีน้อยๆจะแย่นะครับ แต่มันเป็นเรื่องของความสมดุล (สมดุลอีกแล้ว เพราะเรากำลังพูดถึงโลกแห่งอาหาร)

          อย่างที่ทราบกันดี Calcium คือองค์ประกอบสำคัญในการเสริมสร้างกระดูก การขาดแคลเซียมจึงเป็นปัญหาต่อการเจริญเติบโต หรือแม้นแต่ความแข็งแรงของกระต่ายโต รวมถึงคุณภาพฟัน แต่โดยธรรมชาตินั้นเราพบว่าแคลเซียมที่จะทำให้เกิดกระดูกได้นั้นจำต้องจับกับแร่ธาตุอีกต้วหนึ่งนั่นคือ Phorsphorus ในอัตราส่วน Ca/P 2:1 แต่ตามมาตรฐาน (FEDIEF, 2013) อาหารที่มีคุณภาพนั้น ควรมี Ca/P อยู่ที่ 1.5-2/1 ทำไมเค่ 1.5 เพราะเราเชื่อว่ากระต่ายจะไม่กินอาหารสำเร็จรูปเพียงอย่างเดียวการกินหญ้ามีความจำเป็นต่อกระต่ายและหญ้าหลากหลายพันธุ์นั้นก็มีปริมาณแคลเซียมอยู่ในตัว จึงไม่จำเป็นต้องกินอาหารที่มีปริมาณ Ca/P ตาม ideal ratio ที่ 2:1 และยิ่งกรณีอาหารที่เป็นลักษณะ Muesli ที่มีหญ้าผสมอยู่แล้ว อาจจะมีค่า Ca:P ต่ำลงได้ถึง 1.2:1 เลยก็เป็นได้ (แต่ไม่มีตำราใดแนะนำให้ต่ำว่านี้)

          ดังนั้นหากอาหารใดไม่มีการระบุปริมาณแคลเซียม และ ฟอสฟอรัส นักโภชนาการจึงมักแนะนำให้หลีกเลี่ยงการให้ เพราะการให้อาหารที่มีความไม่สมดุลแคลเซียมจะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

          สำหรับกระต่ายนั้นจากการศึกษาของ Chapin and Smith (1967) พบกว่ากระต่ายหลายตัวสามารถทนต่อปริมาณแคลเซียมสูงๆได้ และมีบางตัวสามารถทนได้ Ca/P ได้ถึง 12/1 โดยไม่มีการแสดงอาการใดๆ ข้อสันนิษฐานหนึ่งคือด้วยฟันกระต่ายยาวขึ้นโดยตลอดจึงอาจจะเป็นวิธีการกำจัดแคลเซียมส่วนเกินนั้นๆ และจากการศึกษาเราพบว่ากระต่ายที่กินอาหารที่มี Ca/P สูงมากๆเป็นเวลานาน และมีภาวะขาดน้ำหรือกลั้นปัสสาวะ จะมีอาการระคายเคืองในทางเดินปัสสาวะได้ง่ายส่งผลให้เกิดความทุกข์ทรมาณอย่างมากในสัตว์
 
          สำหรับ P หากพิจารณาที่ Ca/P แล้วนั้น P อาจจะทำให้ค่า Ca/P สูง และดูดี แต่แน่นอนครับอาหารคือความสมดุล P หรือฟอสฟอรัสที่น้อยเกินไปก็ส่งผลเสียต่อร่างกายเช่นกันไม่ว่าจะเป็นสมดุลกรดด่างในเลือดรวมไปถึงระบบประสาทการทำงานต่างๆ ดังนั้นจึงเกิดมาตรฐานขึ้นมาว่า แคลเซียมในอาหารควรไม่ต่ำกว่า 0.5% และ ฟอสฟอรัสในอาหารควรไม่ต่ำกว่า 0.4% (FIDIAF, 2013)
 
          และนี่คือหนึ่งในวิธีพิจารณาคุณภาพอาหารแบบมืออาชีพ ที่คุณเองก็สามารถทำได้ในแบบฉบับ Cuni Tips
 
อ่านบทความเรื่องอาหารดีของกระต่ายหัวข้อที่ผ่านมาได้ตาม link ด้านล่างนี้ครับ
 
ค่าโปรตีนสำหรับกระต่าย